แนวข้อสอบครูผู้ช่วย 2568 ภาค ข หมวดที่ 3 การแนะแนวและการพัฒนาผู้เรียน 20 ข้อ แบบปรนัย 4 ตัวเลือก พร้อมเฉลยและคำอธิบายครบถ้วน

แนวข้อสอบครูผู้ช่วย 2568 ภาค ข หมวดที่ 3: การแนะแนวและการพัฒนาผู้เรียน จำนวน 20 ข้อ พร้อมเฉลย

แนวข้อสอบครูผู้ช่วย 2568 ภาค ข เป็นอีกหนึ่งหัวข้อสำคัญที่ผู้สอบต้องเตรียมตัวให้ดี โดยเฉพาะหมวด “การแนะแนวและการพัฒนาผู้เรียน” ซึ่งเกี่ยวข้องโดยตรงกับการดูแล ช่วยเหลือ และส่งเสริมศักยภาพของนักเรียนในทุกมิติ สำหรับบทความนี้ เว็บไซต์การศึกษาไทย.com ได้รวบรวมแนวข้อสอบครูผู้ช่วยหมวดที่ 3 แบบปรนัย 4 ตัวเลือก พร้อมเฉลยและคำอธิบาย เพื่อให้ผู้อ่านใช้ทบทวนและเตรียมตัวสอบอย่างมั่นใจครับผม

หมวดที่ 3: การแนะแนวและการพัฒนาผู้เรียน (20 ข้อ)

1. ข้อใดคือความหมายของการแนะแนวในโรงเรียน
   ก. การแนะนำทางวิชาการเท่านั้น
   ข. การให้คำปรึกษาด้านอาชีพโดยเฉพาะ
   ค. กระบวนการช่วยนักเรียนให้รู้จักและเข้าใจตนเอง
   ง. การสอนเสริมในเวลาว่าง
   เฉลย: ค.
   คำอธิบาย: การแนะแนวคือการช่วยให้นักเรียนเข้าใจตนเองและพัฒนาศักยภาพตนเองได้อย่างเหมาะสม
2. หัวใจของการแนะแนวคืออะไร
   ก. การประชาสัมพันธ์
   ข. การให้คำปรึกษา
   ค. การแนะนำวิชาชีพ
   ง. การจัดกิจกรรมเสริม
   เฉลย: ข.
   คำอธิบาย: หัวใจสำคัญของงานแนะแนวคือ “การให้คำปรึกษา” เพื่อช่วยเหลือนักเรียนเป็นรายบุคคล
3. บริการแนะแนวในโรงเรียนมีกี่ประเภทหลัก
   ก. 3 ประเภท
   ข. 4 ประเภท
   ค. 5 ประเภท
   ง. 6 ประเภท
   เฉลย: ค.
   คำอธิบาย: ประกอบด้วย 5 บริการหลัก ได้แก่ ข้อมูลรายบุคคล, สารสนเทศ, ให้คำปรึกษา, วางตัวบุคคล, ติดตามผล
4. การศึกษาข้อมูลรายบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่ออะไร
   ก. วางแผนกิจกรรมโรงเรียน
   ข. จัดกลุ่มเพื่อแข่งขัน
   ค. รู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล
   ง. จัดสอบปลายภาค
   เฉลย: ค.
   คำอธิบาย: เพื่อให้ครูแนะแนวสามารถเข้าใจพื้นฐานของนักเรียนได้อย่างลึกซึ้ง
5. เครื่องมือสำคัญในการให้คำปรึกษาคืออะไร
   ก. ใบงาน
   ข. แบบประเมิน
   ค. การฟังอย่างตั้งใจ
   ง. ตารางสอน
   เฉลย: ค.
   คำอธิบาย: การฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening) เป็นทักษะสำคัญในการให้คำปรึกษา
6. เครื่องมือ SDQ ใช้เพื่ออะไร
   ก. วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
   ข. คัดกรองพฤติกรรมและปัญหา
   ค. ทดสอบไอคิว
   ง. ประเมินคุณธรรม
   เฉลย: ข.
   คำอธิบาย: SDQ (Strengths and Difficulties Questionnaire) ใช้คัดกรองพฤติกรรมและความต้องการพิเศษของนักเรียน
7. ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนมีกี่ขั้นตอน
   ก. 3 ขั้นตอน
   ข. 4 ขั้นตอน
   ค. 5 ขั้นตอน
   ง. 6 ขั้นตอน
   เฉลย: ค.
   คำอธิบาย: ได้แก่ รู้จักนักเรียน, คัดกรอง, จัดกลุ่ม, วางแผนช่วยเหลือ, ส่งต่อ
8. การเยี่ยมบ้านอยู่ในขั้นตอนใดของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน
   ก. คัดกรอง
   ข. รู้จักนักเรียนรายบุคคล
   ค. ส่งต่อ
   ง. วางแผนช่วยเหลือ
   เฉลย: ข.
   คำอธิบาย: การเยี่ยมบ้านช่วยให้ครูเข้าใจบริบทของนักเรียนอย่างแท้จริง
9. การส่งต่อนักเรียนไปยังหน่วยงานภายนอกควรทำเมื่อใด
   ก. เมื่อครูไม่มีเวลาสอน
   ข. เมื่อผู้ปกครองร้องขอ
   ค. เมื่อโรงเรียนไม่สามารถช่วยได้เพียงพอ
   ง. เมื่อโรงเรียนต้องการลดภาระ
   เฉลย: ค.
   คำอธิบาย: การส่งต่อทำเมื่อโรงเรียนไม่สามารถดูแลนักเรียนได้อย่างครบถ้วน
10. บริการแนะแนวด้านสารสนเทศหมายถึงอะไร
    ก. การเก็บข้อมูลนักเรียน
    ข. การเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อนักเรียน
    ค. การส่งแฟ้มสะสมผลงาน
    ง. การตรวจการบ้านนักเรียน
    เฉลย: ข.
    คำอธิบาย: ให้ข้อมูลเรื่องการเรียน การศึกษาต่อ และอาชีพ เพื่อให้นักเรียนตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม
11. งานแนะแนวสัมพันธ์กับกิจกรรมใดของโรงเรียน
    ก. การสอนแบบโครงงาน
    ข. การวัดผลแบบ O-NET
    ค. การพัฒนาผู้เรียน
    ง. การส่งเสริมครู
    เฉลย: ค.
    คำอธิบาย: งานแนะแนวช่วยสนับสนุนการพัฒนาผู้เรียนทั้งด้านสติปัญญา อารมณ์ สังคม และจิตใจ
12. การจัดกิจกรรมกลุ่มย่อยเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์อยู่ในบริการใด
    ก. ให้คำปรึกษา
    ข. วางแผนบุคคล
    ค. สารสนเทศ
    ง. วางตัวบุคคล
    เฉลย: ข.
    คำอธิบาย: เพื่อให้นักเรียนเข้าใจบทบาทของตนเองและวางแผนชีวิตได้เหมาะสม
13. แนวคิดพื้นฐานของการแนะแนว คืออะไร
    ก. ทุกคนควรได้รับโอกาสในการพัฒนา
    ข. ครูควรควบคุมการตัดสินใจของนักเรียน
    ค. ผู้เรียนไม่มีทางเลือก
    ง. นักเรียนไม่ต้องการแนะแนวเสมอไป
    เฉลย: ก.
    คำอธิบาย: แนวคิดของการแนะแนวเชื่อว่าทุกคนมีศักยภาพและสามารถพัฒนาได้
14. ข้อใดคือกลุ่มที่จัดอยู่ในระดับ “เสี่ยง” ตาม SDQ
    ก. ไม่มีพฤติกรรมที่น่ากังวล
    ข. เริ่มมีปัญหาในบางด้าน
    ค. ต้องส่งต่อทันที
    ง. พร้อมเรียนรู้ตามปกติ
    เฉลย: ข.
    คำอธิบาย: กลุ่มเสี่ยงต้องได้รับการติดตามอย่างใกล้ชิดและอาจต้องมีแผนช่วยเหลือเฉพาะ
15. การให้โอกาสนักเรียนพูดแสดงความคิดเห็น เป็นการพัฒนาด้านใด
    ก. ทักษะคำนวณ
    ข. ความกล้าแสดงออก
    ค. ความจำ
    ง. การอ่าน
    เฉลย: ข.
    คำอธิบาย: การแสดงความคิดเห็นส่งเสริมทักษะด้านอารมณ์และสังคม
16. การแนะแนวมีบทบาทในการลดปัญหาใด
    ก. ความยากจน
    ข. ปัญหาพฤติกรรมและอารมณ์
    ค. ปัญหาสาธารณูปโภค
    ง. ปัญหาโครงสร้างโรงเรียน
    เฉลย: ข.
    คำอธิบาย: งานแนะแนวมีบทบาทในการให้คำปรึกษาและวางแผนเพื่อพัฒนาพฤติกรรม
17. งานแนะแนวช่วยให้นักเรียนรู้จักอะไร
    ก. รายวิชาที่ง่ายที่สุด
    ข. ตัวเองและผู้อื่น
    ค. เฉพาะคะแนนสอบ
    ง. เส้นทางลัดในการเรียน
    เฉลย: ข.
    คำอธิบาย: แนะแนวช่วยให้นักเรียนรู้จักตนเอง เข้าใจผู้อื่น และอยู่ร่วมในสังคมได้ดีขึ้น
18. กิจกรรมที่ฝึกการอยู่ร่วมกับผู้อื่นเป็นกิจกรรมในด้านใด
    ก. กิจกรรมแนะแนว
    ข. กิจกรรมลูกเสือ
    ค. กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์
    ง. กิจกรรมเสริมหลักสูตร
    เฉลย: ค.
    คำอธิบาย: ฝึกให้นักเรียนมีจิตสาธารณะและเข้าใจการทำงานเป็นทีม
19. การแนะแนวด้านการศึกษาต่อควรเริ่มในช่วงใด
    ก. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น
    ข. หลังจบประถมศึกษา
    ค. เฉพาะ ม.6
    ง. เมื่อเข้าสู่อาชีพ
    เฉลย: ก.
    คำอธิบาย: ควรเริ่มตั้งแต่มัธยมต้น เพื่อให้นักเรียนมีเวลาเตรียมตัวและวางแผน
20. ครูแนะแนวควรมีคุณสมบัติสำคัญข้อใด
    ก. พูดเก่ง
    ข. ฟังเก่ง
    ค. สอนเก่ง
    ง. เขียนเก่ง
    เฉลย: ข.
    คำอธิบาย: ครูแนะแนวต้องมีทักษะการฟังที่ดี เพื่อเข้าใจและเข้าถึงนักเรียนได้อย่างแท้จริง