บทความ

การเขียนข้อสอบปรนัย ข้อสอบปรนัยที่ดี ต้องทำอย่างไร

การเขียนข้อสอบปรนัย

การสร้างข้อสอบแบบทดสอบพัฒนามาจากการทดสอบแบบปากเปล่า มาเป็นแบบเขียนตอบ ข้อสอบแบบเขียนตอบในปัจจุบันนี้ที่นิมยมใช้กันมากแบบหนึ่ง คือ ข้อสอบปรนัย ข้อสอบปรนัย มีหลายแบบ แต่ละแบบก็มีจุดเด่น-ด้อย แตกต่างกันไป

ข้อสอบแบบปรนัยที่ดี ๆ เขียนได้ยาก เพราะจะต้องเขียนคำถามให้สามารถวัดสิ่งที่ต้องการ จะวัดได้ ถ้าวัดสมรรถภาพสมองขั้น ความรู้ ความจำ ก็เขียนได้ค่อนข้างง่าย ถ้าจะวัดขั้นความเข้าใจ นำไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ หรือประเมินค่า ซึ่งถือว่าเป็นสมรรถภาพสมองขั้นสูง จึงเป็นของธรรมดาที่ต้องออกแรงกันมากหน่อย เพราะข้อสอบดี ๆ สร้างยาก ในการสร้างข้อสอบปรนัย ที่ดี ๆ นั้น มิใช่ว่านึกจะเขียนให้ได้ดีก็เขียนได้เลย เนื่องจากงานเขียนข้อสอบเป็นงานประเภทสร้างสรรค์ ผู้เขียนจะต้องมีคุณสมบัติที่สำคัญ ดังนี้

1. ต้องเป็นผู้มีความรู้ในเนื้อหาวิชาที่ตนจะเขียนข้อสอบอย่างลึกซึ้ง คำว่า “รู้สึกซึ้ง” ใน ที่นี้กินความเกินกว่าการท่องจำ เพราะการที่จะวัดให้ลัวงลึกลงไปในสมรรถภาพสมองชั้นยอด ของเนื้อหาวิชาใดนั้น ผู้เขียนข้อสอบจะต้องรู้สึกซึ้งในสาขาวิชานั้น เพราะถ้าไม่มีความรู้ในสิ่งที่จะวัดแล้ว ข้อสอบที่สร้างขึ้นอาจจะขาดความเที่ย งตรงตามเนื้อหา นอกจากนี้ยังมีผลทำให้ผู้ออก ข้อสอบ ไม่สามารถเขียนข้อสอบวัดพฤติกรรมที่สูงกว่าความรู้ ความจำได้

2. ต้องเป็นผู้มีความรู้ในจุดมุ่งหมายของการศึกษา นั่นคือผู้ออกข้อสอบจะต้องรู้ว่าจะ ปลูกฝังให้นักเรียนเกิดส มรร ถภาพใดขึ้นมาบ้าง และนักเรียนจะแสดงพฤติกรรมอะไรออกมาให้ เห็นว่าสิ่งนั้นมีสมรรถภาพชนิดนั้นอยู่ เช่น รู้ว่าสมรรถภาพท่างดวามรู้และปัญญา มีตั้งแต่จำเข้าใจ นำไปใช้ วิเคราะห์ สังเคราะห์หรือประเมินค่า และยังรู้อีกว่า การที่เด็กเรียนวิทยาศาสตร์ เรื่อง “สารประกอบ” แล้วเกิดสมรรถภาพทางวิเคราะห์ในเรื่องนั้นจะมีพฤติกรรมอย่างไร กระบวนการสอนเป็นแบบใดจึงจะเกิดวงจรความคิดประเภทนั้นขึ้นมา จึงจะวัดได้ถูกต้องว่าเขามีสมรรถภาพ ดังกล่าวอยู่หรือเปล่าถ้ามี มีอยู่สักเท่าใด

3. ต้องเป็นผู้มีความรู้ในหลักการศึกษาและจิตวิทยาเกี่ยวกับผู้เรียน ผู้ออกข้อสอบ ควรจะรู้ว่าเด็กระดับนั้น อายุขนาดนั้นจะมีสมรรถภาพทางด้านโนันด้านนี้แล้วหรือยัง แบบทดสอบ ที่ยากและซับซ้อนขนาดนี้จะเหมาะสมหรือไม่ ภาษาที่ใช้ควรจะเป็นอย่างไร

4. ต้องเป็นผู้มีความสามารถใช้ภาษาสื่อความคิดได้เป็นอย่างดี เนื่องจากการเขียนสอบ นั้นต้องใช้ใจความสั้น ๆ ให้เด็กที่ต่างประส บการ ณ์ต่างระดับของความสามาร ถทางภาษาเข้าใจ ได้ตรงกันว่าเราต้องการถมอะไร และต้องการให้ตอบอะไรและดำตอบที่ให้เลือกแต่ละข้อหมาย ถึงอะไร กินความแค่ไหน นั่นคือ ต้องมีความสามารถในการเรียบเยงถ้อยคำให้เข้าใจง่ายที่สุด เท่าที่จะ ง่ายได้แล้วยังต้องสื่อความหมายที่ต้องการได้อีกด้วย ผู้สร้างข้อสอบแต่ละข้อจะต้อ งคิดแล้ว คิดอีกด้วยความถี่ถ้วนว่าประโยคนี้วสีนี้ผู้เข้าสอบที่ด้อยทั้งความรู้และประสบการณ์จะมีโอกาส ตีความหมายแตกต่างไปจากที่ตนมุ่งหวังได้หรือไม่

5. ต้องเป็นผู้ที่รู้เทคนิดของการสร้างข้อสอบแบบปรนัย และการเขียนข้อสอบ นั่นคือครู ต้องรู้ว่าข้อสอบแต่ละข้อนั้น ถ้าจะให้เป็นข้อสอบที่ดีควรจะมีลักษณะอย่างไร ถ้าจะเขียนข้อสอบ ให้ดีเลิดแล้วยังต้องการคุณส มบัติพิเศษขึ้นไปอีก กล่าวคือ ต้องเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์อยู่ ในระดับสูง เพราะการวัดสมรรถภาพสมองในระดับสูงมักจะต้องเขียนเป็นสถานการณ์ใหม่ที่เด็ก ไม่เคยพบประสบมาก่อนเลย จึงจะวัดลึกถึงระดับที่ต้องการ ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าข้อสอบบางข้อ เรามองดูผิวเผินเป็นข้อสอบวัดสมรรถภาพ สมองระดับสูง แต่ไปใช้จริงจังเข้าเด็กมิได้ใช้สมรรถภาพ สมองระดับนั้นมาตอบก็ทำได้ เนื่องจากสถานการณ์นั้นหรือคล้าย ๆ กันนั้นเด็กได้เคยเรียนเคยรู้ มาก่อนแล้ว จึงกลายเป็นวัดแค่จำเท่านั้นเอง (สำหรับเด็กกลุ่มนั้น)

จะเห็นได้ว่า การเขียนข้อสอบนั้นมิใช่ใครเขียนคำถาม เป็นก็เขียนข้อสอบแบบปรนัยที่ดีได้ จะเป็นได้ก็แต่ประโยคคำถามธรรมดาเท่านั้น

อ้างอิง
https://www.kruchiangrai.net

Powered by GliaStudio

การศึกษาไทย

เว็บไซต์ข่าวสารการศึกษาของครูและบุคลากรทางการศึกษา อัพเดททุกวัน ติดตามเราเพื่อไม่พลาดความเคลื่อนไหว ของข่าวสารการศึกษา ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ

Related Articles

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button