คู่มือการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำหรับ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา

คู่มือฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นแนวทางในการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ส่วนที่ 1
ความเป็นมาของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา (อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประจำเขตพื้นที่การศึกษา) เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 เพื่อทำหน้าที่บริหารงานบุคคลในระดับเขตพื้นที่การศึกษา
องค์ประกอบของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ประกอบด้วย:
- ประธานอนุกรรมการ ซึ่งอาจเป็นผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้บริหารการศึกษา
- อนุกรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
- อนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
- อนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
อำนาจและหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา
อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา มีอำนาจและหน้าที่หลัก ดังนี้:
- พิจารณากำหนดนโยบายการบริหารงานบุคคลในเขตพื้นที่การศึกษา
- พิจารณาให้ความเห็นชอบการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
- ให้ความเห็นชอบเกี่ยวกับการพิจารณาความดีความชอบของผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
- พิจารณาเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัย การออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์
ส่วนที่ 2
1. เกณฑ์อัตรากำลังและวิธีการบริหารอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
การบริหารอัตรากำลังต้องคำนึงถึง:
- จำนวนนักเรียนต่อห้อง
- จำนวนครูต่อนักเรียน
- ภาระงานของสถานศึกษา
- การวางแผนอัตรากำลังระยะยาว
2. การสรรหา บรรจุ และแต่งตั้ง
กระบวนการสรรหาบุคลากรประกอบด้วย:
- การสอบแข่งขัน
- การคัดเลือก
- การบรรจุและแต่งตั้งตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด
3. การพัฒนา
การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาควรครอบคลุม:
- การฝึกอบรม
- การศึกษาดูงาน
- การพัฒนาตามสมรรถนะวิชาชีพ
4. เงินเดือนและค่าตอบแทน
การพิจารณาเงินเดือนและค่าตอบแทนต้องคำนึงถึง:
- ระบบบัญชีเงินเดือน
- การเลื่อนเงินเดือน
- เงินวิทยฐานะและเงินประจำตำแหน่ง
5. การย้าย
หลักเกณฑ์และวิธีการย้ายต้องพิจารณา:
- เหตุผลความจำเป็น
- ความรู้ความสามารถ
- ประสบการณ์
- ความเหมาะสมกับตำแหน่งที่จะย้ายไปดำรงตำแหน่ง
6. การกำหนดตำแหน่งเพื่อบริหารอัตรากำลัง
การกำหนดตำแหน่งต้องสอดคล้องกับ:
- ภารกิจของสถานศึกษา
- ความต้องการจำเป็นของเขตพื้นที่การศึกษา
- มาตรฐานวิชาเอกที่ ก.ค.ศ. กำหนด
7. การบริหารงานบุคคล สำหรับโรงเรียนคุณภาพ
ต้องคำนึงถึงลักษณะเฉพาะของโรงเรียนคุณภาพ เช่น:
- การสรรหาบุคลากรที่มีคุณภาพสูง
- การพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรอย่างต่อเนื่อง
- การสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน
8. การเปลี่ยนตำแหน่ง การย้าย และการโอน
ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด โดยคำนึงถึง:
- คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง
- ประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับ
9. การบรรจุกลับเข้ารับราชการ
การพิจารณาบรรจุกลับต้องคำนึงถึง:
- เหตุผลการออกจากราชการ
- ผลการปฏิบัติงานและความประพฤติก่อนออกจากราชการ
- ความเหมาะสมและประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับ
10. การประเมินวิทยฐานะ
การประเมินวิทยฐานะต้องพิจารณาจาก:
- ผลการปฏิบัติงาน
- ผลงานทางวิชาการ (สำหรับวิทยฐานะชำนาญการพิเศษขึ้นไป)
- การพัฒนางานตามข้อตกลง (PA)
11. การบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2)
ต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการเฉพาะสำหรับตำแหน่งนี้ ซึ่งอาจแตกต่างจากตำแหน่งครูผู้สอน
12. การดำเนินการทางวินัย และการออกจากราชการ
การดำเนินการทางวินัยต้อง:
- เป็นไปตามกระบวนการที่กฎหมายกำหนด
- ยึดหลักความเป็นธรรมและโปร่งใส
- มีการสืบสวนและสอบสวนอย่างรอบคอบ
13. การอุทธรณ์ และร้องทุกข์
กระบวนการอุทธรณ์และร้องทุกข์ต้อง:
- เปิดโอกาสให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงและแสดงพยานหลักฐาน
- พิจารณาด้วยความเป็นธรรมและรวดเร็ว
- แจ้งผลการพิจารณาให้ผู้อุทธรณ์หรือร้องทุกข์ทราบเป็นลายลักษณ์อักษร