ดร.สุภัทร จําปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ตามที่หลาย ฝ่ายออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถอนร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติพ.ศ…ออกจากการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร โดยเฉพาะ ประเด็นการแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีหลักการ สำคัญของการคืนอำนาจการบริหารงานบุคคลด้วยการบรรจุแต่งตั้งโยกย้าย ตามมาตรา 58 กลับคืนมาให้อ. ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาในฐานะผู้บังคับบัญชา ต้นสังกัดตาม พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 นั้น เรื่องนี้คงต้องให้สภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้พิจารณาว่าจะตัดสินใจใน ประเด็นนี้อย่างไรบ้างเพราะเท่าที่ทราบร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวมีแนวทางปฏิบัติ เรื่องอำนาจการบริหารงานบุคคลอยู่หลายรูปแบบ
ปลัด ศธ.กล่าวอีกว่า ในร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. … ได้กำหนด โครงสร้างอำนาจการบริหารงานบุคคลให้อยู่ในรูปแบบ อ.ก.ค.ศ. จังหวัด ซึ่งมี องค์ประกอบของผู้แทนผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ร่วมด้วย ซึ่ง ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีความเป็นธรรมเกิดขึ้นเพราะที่ผ่านมาการแก้ไขอำนาจ การบรรจุและแต่งตั้งก่อนมีคำสั่งหัวหน้า คสช.นั้น มีเรื่องร้องเรียนถึงการ โยกย้ายที่ส่อเป็นการเรียกรับผลประโยชน์เกิดขึ้น นอกจากนี้ เมื่อมีการปรับ โครงสร้างปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการเกิดขึ้นจนมี ศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ศึกษาธิการภาค (ศธภ.) ทำให้การบริหารการศึกษา จะต้องเป็นภาพรวมทั้งจังหวัด ดังนั้นอำนาจการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายจึงให้ กศจ. เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งจากการสำรวจการบรรจุแต่งตั้งโยกย้ายในรูปแบบ กศจ. พบว่า 5 ปีที่ผ่านมาไม่มีการคอร์รัปชันหรือการวิ่งเต้นเกิดขึ้นจาก และถือว่า เรื่องนี้ลดลงไปได้อย่างมาก
ที่มา ไทยรัฐฉบับที่23190 ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2564
