คุรุสภาเตรียมดำเนินคดีกับครูที่ละเลยไม่ต่ออายุใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพ
คุรุสภาเตรียมการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ที่ปล่อยปละละเลย ไม่ต่ออายุใบอนุญาตตามกฎหมาย
ตามที่ได้มีรายงานข่าวเกี่ยวกับกรณีผู้ปกครองร้องเรียนว่าลูกหลานได้รับเงินปัจจัยพื้นฐานจากกองทุนนักเรียนยากจน แต่ทางโรงเรียนกลับนำเงินไปจัดซื้ออุปกรณ์การเรียนและชุดกีฬาแจกให้นักเรียนทุกคนตามระเบียบ นั้น เลขาธิการคุรุสภา ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม ได้กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษาของผู้บริหารสถานศึกษาดังกล่าว พบว่า เป็นผู้ที่ขาดการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2567 และไม่พบข้อมูลการดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตแต่อย่างใด
การดำเนินคดีกับผู้ประกอบวิชาชีพที่ละเลยไม่ต่ออายุใบอนุญาต
เลขาธิการคุรุสภา ได้กล่าวว่า กรณีผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาไม่ต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2546 เป็นการฝ่าฝืน มาตรา 43 และมีบทกำหนดโทษตามมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติสภาครูฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ จึงได้มอบหมายให้สำนักจรรยาบรรณวิชาชีพและนิติการ ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหารสถานศึกษาดังกล่าว คู่ขนานกับการดำเนินการทางจรรยาบรรณของวิชาชีพตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
ข้อแนะนำสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพ
ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวเน้นย้ำให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ประพฤติปฏิบัติตนตามจรรยาบรรณของวิชาชีพครูอย่างเคร่งครัด และตรวจสอบสถานะใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทางการศึกษา โดยสามารถตรวจสอบวันหมดอายุใบอนุญาตฯ ของตนเอง และยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตฯ ได้ภายใน 180 วันก่อนวันหมดอายุ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ KSP Self – Service หรือเว็บไซต์ของคุรุสภา แบบออนไลน์ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการต่ออายุใบอนุญาตฯ และลดภาระด้านค่าใช้จ่ายและการเดินทางของผู้ประกอบวิชาชีพทุกคน
การให้บริการและช่องทางการติดต่อ
หากมีข้อสงสัยในด้านใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และพนักงานเจ้าหน้าที่คุรุสภา ในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทั่วประเทศ