ศธ. ปรับโครงสร้างภายในหน่วยงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงตามพ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้
กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายในหน่วยงานในสังกัด เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและรองรับการเปลี่ยนแปลงตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 ที่มีผลใช้บังคับ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของ สป.ศธ. สอศ. และ สกศ.
สป.ศธ. ปรับภารกิจและโครงสร้างรองรับพ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.) ได้ปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงตามพ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้:
- สป.ศธ. มีภารกิจเกี่ยวกับการพัฒนายุทธศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของกระทรวงเป็นแผนปฏิบัติราชการ ดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ จัดทำงบประมาณและบริหารราชการประจำทั่วไปของกระทรวง
- จัดตั้งส่วนราชการใน สป.ศธ. เช่น สำนักอำนวยการ ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ และสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์
สอศ. และ สกศ. เพิ่มกลุ่มตรวจสอบภายในและพัฒนาระบบบริหาร
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังได้เห็นชอบให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้:
- สอศ. และ สกศ. จะจัดตั้งกลุ่มตรวจสอบภายในและกลุ่มพัฒนาระบบบริหารขึ้น เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบการดำเนินงาน สนับสนุนการปฏิบัติงาน และพัฒนาการบริหารของหน่วยงาน
- การปรับปรุงโครงสร้างดังกล่าวจะช่วยให้การปฏิบัติภารกิจตามหน้าที่และอำนาจของ สอศ. และ สกศ. มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น
กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ศธ. ก่อตั้งใหม่ตามพ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังได้รับทราบร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. …. ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้:
- กรมส่งเสริมการเรียนรู้ ศธ. มีภารกิจเกี่ยวกับการจัด ส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเอง และการเรียนรู้ในรูปแบบอื่นที่จะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน
- จัดตั้งส่วนราชการในกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ศธ. เช่น สำนักงานเลขานุการกรม กองบริหารทรัพยากรบุคคล และกองส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้
การปรับปรุงโครงสร้างและภารกิจของหน่วยงานในสังกัด ศธ. ดังกล่าว จะช่วยให้การดำเนินงานมีความคล่องตัวและสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงตามพ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. 2566 ที่มีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน