การนำ OKRs ไปใช้ในงานประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 35 จังหวัดพังงา

กระดานสนทนา เผยแพร่ผลงานวิชาการหมวดหมู่: เผยแพร่ผลงานวิชาการการนำ OKRs ไปใช้ในงานประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 35 จังหวัดพังงา
วรสรรพ์ มีผล asked 6 เดือน ago

ปัจจุบันโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกๆด้าน การบริหารองค์กรในทั้งภาครัฐและเอกชนต่างต้องมีการปรับตัวเพื่อก้าวเข้าสู่โลกในศตวรรษที่ 21 ไม่เว้นแม้แต่ระบบการศึกษาที่ต้องพัฒนาระบบการบริหารต่างๆ เพื่อเข้าสู่การศึกษาในศตวรรษที่ 21  คำว่า “การศึกษาสำหรับศตวรรษที่ 21” ย้ำให้เห็นว่า เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมที่ประเทศต่างๆ มีความเชื่อมโยงกันมากขึ้นเรื่อยๆ และระบบการศึกษาจำเป็นต้องปรับตัว โดยไม่ใช่แค่การปฏิรูปเพียงครั้งคราว แต่ต้องเป็นการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง  เพื่อตอบสนองความต้องการของเยาวชน สังคมและตลาดแรงงานทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ซึ่งผู้กำหนดนโยบายและบุคลากรด้านการศึกษาของไทยล้วนตระหนักว่า การศึกษาควรจะมุ่งเน้นการเตรียมความพร้อมให้เยาวชนมีทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตและสอดคล้องกับสังคมในอนาคต
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงา เป็นหน่วยงานภาครัฐ สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มีหน้าที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน เป็นสถานศึกษาสำหรับเด็กด้อยโอกาสในลักษณะอยู่ประจำ โดยมีแนวคิดและปรัชญาการจัดการศึกษาเพื่อสร้างความมั่นคงทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม สร้างผู้นำในชุมชนท้องถิ่น ฝึกทักษะพื้นฐานงานอาชีพและสร้างจิตสำนึกในความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติศาสนา และพระมหากษัตริย์แก่เด็กด้อยโอกาสให้เป็นพลเมืองที่ดีของสังคมในอนาคต ได้จัดการศึกษาตั้งแต่ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานและหลักสูตรสถานศึกษา โดยเน้นการส่งเสริมอาชีพเพื่อให้นักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน มีทักษะพื้นฐานงานอาชีพ มีทักษะการดำรงชีวิตที่มี คุณภาพตลอดจนมองลู่ทางการประกอบอาชีพในอนาคตได้
          เนื่องด้วยโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงานั้น เป็นโรงเรียนที่จัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กด้อยโอกาส และเป็นโรงเรียนลักษณะอยู่ประจำ กลไกสำคัญที่จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโรงเรียนนั้น จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการที่ดี และมีกระบวนการการประกันคุณภาพการศึกษาที่มีมาตรฐาน ปฏิบัติงานได้อย่างเป็นระบบ สามารถผลิตผู้สำเร็จการศึกษาที่มีคุณภาพตามความมุ่งหวังของผู้ปกครอง ชุมชน และองค์กร/สถานประกอบการ ดังนั้นกระบวนการการประกันคุณภาพการศึกษาจึงเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการจัดการศึกษาในปัจจุบัน และต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
 
 
การประกันคุณภาพการศึกษา
คุณภาพการศึกษา  หมายถึง  การบ่งชี้คุณลักษณะที่มีความเป็นเลิศ ทางด้านต่าง ๆ ทั้งด้านการบริหารและด้านวิชาการ โดยผ่านกระบวนการผลิต เป็นระบบ ประกอบด้วยปัจจัยนำเข้า การบวนการ และผลผลิตตามกรรมวิธี การวัดด้วยเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และเป็นที่ยอมรับของสังคม 
การประกันคุณภาพการศึกษา  หมายถึง การบริหารจัดการและการดำเนินกิจกรรมตามภารกิจปกติของสถานศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างต่อเนื่อง สร้างความมั่นใจให้ผู้รับบริการทางการศึกษาทั้งผู้รับบริการโดยตรงได้แก่  ผู้เรียนและผู้ปกครอง  และผู้รับบริการทางอ้อมได้แก่ สถานประกอบการและประชาชน
          ดังนั้น การประกันคุณภาพการศึกษา จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง และการดำเนินการประกันคุณภาพการศึกษาจะประสบความสำเร็จได้ ขึ้นอยู่กับผู้บริหาร ซึ่งจะต้องมีบทบาทและหน้าที่สำคัญ ในการพัฒนาการประกันคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน 
     ความจำเป็นของการประกันคุณภาพการศึกษา
     การจัดการศึกษา เพื่อพัฒนาคนให้มีคุณภาพ เพื่อทำให้ศักยภาพที่มีอยู่ในตัวคนได้รับการการพัฒนาอย่างเต็มที่ ทำให้เป็นคนที่รู้จักคิดวิเคราะห์รู้จักแก้ปัญหา มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ รู้จักเรียนรู้ด้วยตนเอง สามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มี คุณธรรม จริยธรรม รู้จักพึ่งตนเอง และสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างเป็นสุข 
     พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542  แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.  2545   
     หมวด  6  มาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา 
     มาตรา  47  ให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุกระดับ ประกอบด้วยการประกันคุณภาพภายใน และระบบการประกันคุณภาพภายนอก
ความสำคัญของการประกันคุณภาพการศึกษา
การประกันคุณภาพการศึกษา มีความสำคัญ 3 ประการ คือ

  1. ทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลคุณภาพการศึกษาที่เชื่อถือได้ เกิดความเชื่อมั่นและสามารถตัดสินใจเลือกใช้บริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน
  2. ป้องกันการจัดการศึกษาที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งจะเป็นการคุ้มครองผู้บริโภคและเกิดความเสมอภาคในโอกาสที่จะได้รับการบริการการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง
  3. ทำให้ผู้รับผิดชอบในการจัดการศึกษามุ่งบริหารจัดการศึกษาสู่คุณภาพและมาตรฐานอย่างจริงจัง ซึ่งมีผลให้การศึกษามีพลังที่จะพัฒนาประชากรให้มีคุณภาพอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง

 
 
OKRs
OKRs ย่อมาจาก Objective and Key Results เป็นระบบบริหารจัดการที่เน้นเรื่อง การตั้งเป้าหมายและการติดตามผลในสิ่งที่สำคัญโดยสร้างจากแรงจูงใจภายใน ช่วยผลักดันให้องค์กรไปถึงเป้าหมายได้อย่างสำเร็จ ซึ่งตัวอักษร O ย่อมากจากคำว่า Objective หมายถึง วัตถุประสงค์หลัก ที่เป็นการบ่งบอกถึงเป้าหมายของหน่วยงาน K และ R ย่อมาจากคำว่า Key Results หมายถึง ผลลัพธ์หลักที่จะทำให้เป้าหมายหรือ Objectives ของเราสำเร็จ
OKRs มีลักษณะเด่นที่แตกต่างจากเครื่องมือตั้งเป้าหมายและวัดผลตัวอื่นๆ เพราะจะกำหนดเป้าหมายหรือ Objective เพียงไม่กี่ข้อ เพื่อให้เราสามารถจดจ่อกับเป้าหมายและมุ่งมั่นทำจนสำเร็จให้ได้ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคปัจจุบัน นอกจากนี้ หลักการที่นิยมในการตั้ง OKRs ยังมักตั้งแบบ “เกินตัว” หรือไกลกว่าความสำเร็จเดิม เพื่อผลักดันให้ทั้งคนและองค์กรเติบโตได้อย่างรวดเร็ว  OKRs จึงมีข้อได้เปรียบกว่าเครื่องมือตัวอื่น เช่น
ยืดหยุ่นและทันความเปลี่ยนแปลง  หากเกิดความเปลี่ยนแปลงหรือมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็จะสามารถปรับหรือเบนทิศทางองค์กรให้ทันกับโอกาสใหม่ๆ ได้ แตกต่างจาก KPI ที่ต้องรอประเมินเมื่อสิ้นปี
เปิดโอกาสให้เกิดการเรียนรู้ ทั้งจากข้อผิดพลาดและอุปสรรคที่ขัดขวางไม่ให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ตลอด เพื่อที่จะหาวิธีการที่ได้ผลมากกว่า
ทลายขีดจำกัดความสามารถและความเป็นไปได้ เพราะลักษณะการตั้ง OKRs มักจะตั้งเป้าหมายที่ไกลกว่าที่เคยทำได้ ในระยะเวลาที่จำกัด ช่วยให้คนทำงานหรือองค์กรพร้อมเอาชนะความสำเร็จเดิม และออกไปพบความเป็นไปได้ใหม่ๆ
ให้ความสำคัญกับการพัฒนา ‘คน’ ด้วยการประเมินที่ไม่ได้ต้องการความสำเร็จที่สมบูรณ์ แต่ยังเหลือพื้นที่สำหรับความท้าทายและความผิดพลาดที่ทำให้เกิดการเรียนรู้เพื่อให้คนพัฒนาตัวเอง นอกจากนี้ ทุกคนในองค์กรจะต้องมีส่วนร่วมในการตั้ง OKRs ของบริษัท นั่นหมายความว่า ทุกไอเดียสำคัญ
เปิดทางสำหรับความคิดสร้างสรรค์ เนื่องจากการมีส่วนร่วมในการคิด OKRs ของทุกคนในองค์กร อาจทำให้พบกับไอเดียใหม่ๆ โดยไอเดียที่ใช้ได้อาจมาจากคนที่ปฏิบัติงานจริง ไม่ใช่ผู้บริหารหรือคนที่วางกลยุทธ์เท่านั้น
หลักการสำคัญของ OKRs

  1. การกำหนด Objective เป็นการกำหนดรายไตรมาส หรือทุก 3 เดือน (ไม่ใช่รายปีเหมือนปัจจุบัน) ส่วนการวัดผล Key results อาจจะวัดเป็นรายสัปดาห์ หรือรายเดือน (เพราะวัตถุประสงค์หนึ่งมีกำหนดเวลาแค่ 3 เดือน)
  2. การกำหนด Objective ไม่ต้องเยอะ ประมาณ 3-5 ข้อ รวมทั้งการกำหนด Key results ด้วย ประมาณ 3 ข้อ ต่อหนึ่ง Objective โดย Key results จะกำหนดตามหลักการ SMART Goal
  3. การกำหนด Objective จะกำหนดจากระดับองค์กรลงมาสู่หน่วยงานและระดับบุคคล โดยต้องให้ บุคลากรมีส่วนร่วมในการกำหนด อย่างน้อย 50% จะเป็นลักษณะผสมผสานระหว่าง Top Down และ Bottomup Approach เพื่อให้เกิดความโปร่งใส
  4. OKRs ยืดหยุ่นได้เมื่อมีปัจจัยหรือเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องปรับ OKR ก็ปรับตามได้
  5. การกำหนดเป้าหมายตาม OKR จะตั้งไว้ที่ 60-70% ไม่ใช่ 100% เหมือนที่เราคุ้นเคย เหตุผลที่ตั้งไม่ถึง 100% ก็เพื่อให้บุคลากรมีแรงขับ เพื่อจะทำให้ได้ดีกว่าเป้าหมายตลอดเวลา
  6. การกำหนด OKR ทำเพื่อการเรียนรู้และพัฒนา ไม่ใช่เพื่อการให้รางวัล

การนำ OKRs ไปใช้

  1. อธิบายทำความเข้าใจให้บุคลากรในองค์กรเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิด OKR
  2. ออกแบบวัตถุประสงค์และผลลัพธ์หลักให้สอดคล้องเชื่อมโยงทั้งองค์กร
  3. สื่อสารให้ทุกคนเข้าใจถึงวิธีการใช้ OKR ก่อนเริ่มนำไปใช้ปฏิบัติงาน
  4. ทุกคนในองค์กรควรมองเห็น OKR ของคนอื่นได้ด้วย เพื่อให้การสามารถวิเคราะห์ถึงวัตถุประสงค์และ ผลลัพธ์หลักของบุคคลหรือหน่วยงานอื่นในองค์กรให้มีความสอดคล้องกัน
  5. ควรมีการใช้งาน OKR อย่างสม่ำเสมอ และควรมีการจัดทำ OKRs ของแต่ละบุคคลเป็นรายไตรมาส ราย ครึ่งปี หรือรายปี

OKRs กับ การประกันคุณภาพการศึกษา
          วิธีที่จะนำเครื่องมือ OKRs ไปปรับใช้กับการประกนคุณภาพการศึกษาในสถานศึกษาให้เกิดผลสำเร็จ อาจต้อง เริ่มต้นจากการทำให้ทุกคนในสถานศึกษาเข้าใจในเป้าหมาย และพร้อมก้าวเดินในทิศทางเดียวกัน เรียกว่า การสร้างความสอดคล้อง เริ่มจากตั้งโจทย์เพื่อหาวิธีส่งเสริม OKRs ของภาพใหญ่ในระดับ สถานศึกษา ถัดลงมาที่การผลักดันในระดับหน่วยงาน หรือระดับทีมที่อาจนำ O หรือ KRs ของ สถานศึกษา มาเป็น O ของหน่วยงาน ในระดับบุคคลก็สามารถนำ O หรือ KRs ของหน่วยงานหรือทีม มาเป็น O ของบุคคลได้เช่นกัน ซึ่งในระดับบุคคล จะสามารถพิจารณาได้ว่า KRs ที่มีอยู่นั้นมีความ สอดคล้อง หรือเชื่อมโยงกับ KRs ของบุคคลในทีมอื่นอย่างไร และเรากำลังทำงานอย่างสอดคล้อง ภายใต้ทิศทางเดียวกันของสถานศึกษาหรือไม่ ซึ่งทำให้การดำเนินงานตาม OKRs นั้นมีประสิทธิภาพ
          Objective and Key Results เป็นแนวคิดการบริหารแบบแนวราบทุกคนมีส่วนคิดและรับผิดชอบ ร่วมกัน ช่วยให้ทุกคนทำงานเพื่อจุดมุ่งหมายเดียวกัน ทำให้คนในองค์กรโฟกัสได้ตรงจุด สอดคล้อง กับเป้าหมายที่องค์กรต้องการจริงๆ สร้างกระบวนการทำงานที่ชัดเจนและวัดผลได้ และสร้างความโปร่งใสของกระบวนการทำงานภายในองค์กร เห็นภาพการทำงานร่วมกันทั้งองค์กร โดยมีเป้าหมายของทุกๆคน
สอดคล้องกัน ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสถานศึกษาแต่ละแห่งจะได้รับอิสระในการออกแบบระบบการประกันคุณภาพ การประกันคุณภาพการศึกษาเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ ทางผู้บริหารสถานศึกษาและผู้ที่เกี่ยวข้อง จำเป็นต้องเรียนรู้ถึงเครื่องมือการบริหารใหม่ๆ และคิดเชื่อมโยงกับ
การนำ Objectives & Key Results (OKRs) ไปใช้ไนการประกันคุณภาพการศึกษา
ขั้นตอนการดำเนินงาน ต้องเริ่มจากการอธิบายทำความเข้าใจให้บุคลากรในองค์กรเข้าใจ เกี่ยวกับแนวคิด OKRs จากนั้นออกแบบวัตถุประสงค์และผลลัพธ์หลักให้สอดคล้องเชื่อมโยงกันทั้งองค์กร โดยสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจถึงวิธีการใช้ OKRs ก่อนการนำไปปฏิบัติ ซึ่งมีขั้นตอนหลัก 2 ขั้นตอน ดังนี้

  1. ขั้นการตั้งวัตถุประสงค์ (Objectives)

1.1 ผู้อำนวยการโรงเรียนตั้งวัตถุประสงค์หลักขององค์กร ประมาณ 3-5 ช้อ โดย จะต้องมีความสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา และระบุให้ชัดเจนว่าวัตถุประสงค์หลักที่ผู้บริหาร โรงเรียนตั้งขึ้นนั้นจะมีส่วนช่วยให้วัตถุประสงค์รองลงมาประสบความสำเร็จได้อย่างไร
1.2 หัวหน้าวิชาการและคณะครู สร้างวัตถุประสงค์ ของแต่ละฝ่ายขึ้นมา และให้ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หลัก (Objectives) ของโรงเรียนที่ผู้อำนวยการโรงเรียนได้ตั้งไว้
1.3 หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างๆ สร้างวัตถุประสงค์ ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ และให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ (Objectives) ของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้และวัตถุประสงค์ หลักของผู้อำนวยการโรงเรียนที่ได้ตั้งไว้
1.4 ครูแต่ละคนสร้างวัตถุประสงค์ของตนเองขึ้นมา และให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ (Objectives) ของหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หัวหน้าวิชาการแนะวัตถุประสงค์หลักของ ผู้อำนวยการโรงเรียนที่ได้ตั้งไว้

  1. ขั้นตอนการหาผลลัพธ์หลัก (Key results)

2.1 การหาผลลัพธ์หลัก (Key results) จะต้องวัดผลได้ง่ายและมีค่าเป้าหมายที่ชัดเจน
2.2 จะต้องวัดผลเชิงปริมาณได้อย่างชัดเจน โดยเป้าหมายที่ตั้งไว้ต้องสามารถนำมาแปลงเป็นคะแนนได้
ทั้งนี้ทั้งนั้นการทำ OKRs ควรมีการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ มีกรอบระยะเวลาที่ชัดเจน สำหรับ การบรรลุความสำเร็จของวัตถุประสงค์และผลลัพธ์หลัก ควรสร้างระบบการรายงานผลที่ทำ ให้ข้อมูลเฉพาะสิ่งที่เกี่ยวข้องกับผู้ใช้โดยตรง และทุกครั้งเมื่อมีการวัดผลเกิดขึ้น จำเป็นต้องมี ข้อคิดเห็นต่อผลที่ได้รับ แต่ผลที่ ได้รับนั้นจะต้องไม่ใช่เป็นการทำโทษหรือลงโทษครูแต่เพื่อประโยชน์ ทางการจัดการเรียนการสอนของครูการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนและการบริหารจัดการ สถานศึกษาของผู้อำนวยการโรงเรียนให้ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้น
 
สรุป
          ด้วยโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงา เป็นหน่วยงานภาครัฐ สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ที่จัดการเรียนการสอนเป็นลักษณะโรงเรียนอยู่ประจำ ตั้งแต่ระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๑ ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ สำหรับเด็กด้อยโอกาส ดังนั้นนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงาบางส่วนนั้น จะมีการเรียนรู้ที่ค่อนข้างช้า มีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวรุนแรง ความใส่ใจในการเรียนค่อนข้างน้อย และมีการย้ายเข้าออกของนักเรียนอยู่เป็นประจำ ทำให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ค่อนข้างต่ำโรงเรียนในสังกัดการศึกษาพิเศษจึงมุ่งเน้นการจัดการเรียนการสอนไปที่ทักษะชีวิต และทักษะอาชีพ เพื่อที่จะส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะชีวิต และทักษะอาชีพติดตัว และสามารถนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพในอนาคตได้
การที่โรงเรียนจะผลิตนักเรียนที่มีประสิทธิภาพออกไปสู่สังคมภายนอกนั้น จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกับโรงเรียนทุกฝ่าย โดยเฉพาะผู้บริหาร และครู โรงเรียนจะมีบริบท และการบริหารงานที่ค่อนข้างจะแตกต่างกับโรงเรียนทั่วไป ดังนั้นเครื่องมือที่ใช้สำหรับการบริหารงานนั้น จึงจำเป็นที่จะต้องเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ และกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน เพื่อให้บุคลากรเข้าใจและมีเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเครื่องมือสำหรับบริหารจัดการที่เน้นเรื่อง การตั้งเป้าหมายและการติดตามผลในสิ่งที่สำคัญโดยสร้างจากแรงจูงใจภายในที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมที่จะนำมาใช้สำหรับการบริหารการศึกษาก็คือ Okrsเพราะจะกำหนดเป้าหมายหรือ Objective เพียงไม่กี่ข้อ เพื่อให้เราสามารถจดจ่อกับเป้าหมายและมุ่งมั่นทำจนสำเร็จให้ได้
การนำ Okrs มาใช้ในงานประกันคุณภาพการศึกษาของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ จังหวัดพังงา ให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด ขั้นแรก บุคลากรทุกคนในสถานศึกษาต้องทำความเข้าใจกับหลักการของ Okrs ก่อน จากนั้นจึงร่วมกับผู้บริหารกำหนดเป้าหมายหลักของโรงเรียน ส่งต่อไปยังแต่ละฝ่ายงานเพื่อกำหนดเป้าหมายของแต่ละฝ่ายให้สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของโรงเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ตั้งเป้าหมายให้สอดคล้องกับฝ่ายงาน และบุคลากรทุกคนตั้งเป้าหมายหลักของตนเองให้สอดคล้องกับเป้าหมายของกลุ่มสาระ ทั้งนี้จะต้องมีกรอบระยะเวลา การวัดและติดตามผลของเป้าหมายที่ชัดเจน และต้องใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
 
 
อ้างอิง
 
– สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. รายงานผลการศึกษาแนวทางการจัดทําระบบการประกันคุณภาพการศึกษา ภายในสถานศึกษาที่เชื่อมโยงกับมาตรฐานการศึกษาของชาติ โดยใช้แนวคิดระบบการวัดผลแบบ OKRs : Objective and Keys Results
– OKRs กับการพัฒนาโรงเรียน รายงานผลการศึกษาแนวทางการบริหารจัดการสถานศึกษาในการนำ มาตรฐานการศึกษาของชาติสู่การปฏิบัติโดยใช้แนวคิดระบบการวัดผล (OKRs: Objective and Key Results). กรุงเทพฯ : 2562 พิมพ์เผยแพร่โดย กลุ่มมาตรฐานการศึกษา สํานักมาตรฐานการศึกษาและพัฒนาการเรียนรู้ สํานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา 99/20 ถนนสุโขทัย เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300
– ดร.อรุณ จุติผล , ดร.ปรีชา สามัคคี , ดร.สุมิตร สามห้วย , ดร.ธีร์ สังขสัญญา.กรกฎาคม 2565. หนังสือ คุณภาพและการประกันคุณภาพการศึกษา (Quality and Educational Quality Assurance). นครศรีธรรมราช : โรงพิมพ์ดีชัย, 2565
– รายงานประจำปี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๕๖. 2556 แหล่งที่มา http://www.skschool.ac.th/sar2556/2.pdf
– ประวัติความเป็นมา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๕ แหล่งที่มา https://www.rpk35.ac.th/
– นภดล ร่มโพธิ์ : แนวทางพัฒนาการดำเนินการประกันคุณภาพภายในโรงเรียนผินสหราษฎร์พัฒนา โดยใช้ แนวคิดระบบการวัดผลแบบ OKRs : Objective and Key Results เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research & Development)

Powered by GliaStudio
Back to top button