การพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยวิธี Phonics ร่วมกับ GBL : 5 Steps เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเด่นวัวราษฎร์รังสรรค์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1

       การศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้เป็นการศึกษาเชิงทดลอง โดยใช้รูปแบบ One Group Pretest-Posttest Design โดยมีวัตถุประสงค์การศึกษาดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยวิธี phonics ร่วมกับ GBL: 5 Steps ให้เกิดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยวิธี phonics ร่วมกับ GBL: 5 Steps 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนรู้ชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยวิธี phonics ร่วมกับ GBL: 5 Steps
       กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเด่นวัวราษฎร์รังสรรค์ ปีการศึกษา 2566 จำนวน 24 คน เรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยวิธี phonics ร่วมกับ GBL: 5 Steps
       เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) ชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยวิธี Phonics สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 11 เล่ม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านและเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยวิธี Phonics สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้ชุดฝึกทักษะ จำนวน 30 ข้อ 3) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องการอ่านและเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยวิธี Phonics ร่วมกับ GBL: 5 Steps เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 22 แผนการเรียนรู้ 4) แบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยวิธี Phonics ร่วมกับ GBL: 5 Steps ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเด่นวัวราษฎร์รังสรรค์ อำเภอวังเจ้า จังหวัดตาก ดำเนินการทดลองโดยให้กลุ่มตัวอย่างทดสอบก่อนเรียนแล้วจึงให้เรียนโดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยวิธี phonics ร่วมกับ GBL: 5 Steps เมื่อเรียนจบแล้วให้นักเรียนทำแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแล้วจึงนำผลไปวิเคราะห์และทดสอบสมมติฐาน
       สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (X-bar) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD)  และการทดสอบค่าที        (t–test dependent) ผลการศึกษา พบว่า

1. การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยวิธี Phonics ร่วมกับ GBL: 5 Steps เพื่อพัฒนาผู้เรียนให้เกิดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่ที่ผู้รายงานสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.12/81.39 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนและหลังเรียนชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยวิธี phonics ร่วมกับ GBL: 5 Steps หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่            ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนรู้ชุดฝึกทักษะการอ่านและเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ โดยวิธี phonics ร่วมกับ GBL: 5 Steps มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าคะแนนเฉลี่ย 4.60 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.57