บทคัดย่อ
การวิจัย มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาแบบปฏิบัติการที่เป็นเลิศ 2) ศึกษาความต้องการความจำเป็น 3) พัฒนารูปแบบ 4) ศึกษาผลการใช้รูปแบบ และ5) ศึกษาความพึงพอใจต่อรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 5 ระยะ ดังนี้ระยะที่ 1 ศึกษาแบบปฏิบัติการที่เป็นเลิศเกี่ยวกับชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ จำนวน 3 โรงเรียน และการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน จำนวน 4 คน จากการเลือกแบบเจาะจง ระยะที่ 2 ศึกษาความต้องการจำเป็นของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ และการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน กลุ่มตัวอย่างคือครูผู้สอนที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ครูวิชาการจำนวน 214 คน ที่มาจากการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ระยะที่ 3 พัฒนารูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยการสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มเป้าหมายคือผู้เชี่ยวชาญจำนวน 15 คน ที่มาจากการเลือกแบบเจาะจง ระยะที่ 4 ศึกษาผลการใช้รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน กลุ่มเป้าหมายคือโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 จำนวน 3 โรงเรียน ที่อาสาสมัครนำรูปแบบไปใช้ จำนวน 44 คน และระยะที่ 5 ศึกษาความพึงพอใจต่อรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประชากรที่ศึกษา คือ ผู้บริหาร และครูผู้สอน จำนวน 44 คน
ผลการวิจัยพบว่า
- แบบปฏิบัติการที่เป็นเลิศเกี่ยวกับชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพประกอบด้วยการมีวิสัยทัศน์ค่านิยมและบรรทัดฐานร่วมกัน การปฏิบัติที่มีเป้าหมายร่วมกัน การร่วมมือรวมพลังของทีม การเปิดรับการชี้แนะการปฏิบัติงาน การสนทนาที่มุ่งสะท้อนผลการปฏิบัติงาน การวิจัยร่วมกัน โครงสร้างสนับสนุนชุมชน และการมีภาวะผู้นำร่วม ส่วนแบบปฏิบัติการที่เป็นเลิศการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานจากครูผู้สอน ประกอบด้วย การวางแผนการจัดการเรียนรู้ ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ และการประเมินผลการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน
- ผลศึกษาความต้องการจำเป็นของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพและการจัดการเรียนรู้แบบโครงงาน 1) ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ พบว่า ความสำคัญความต้องการจำเป็นของชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ประกอบด้วย การมีวิสัยทัศน์ค่านิยมและบรรทัดฐานร่วมกัน การปฏิบัติที่มีเป้าหมายร่วมกัน การร่วมมือรวมพลังของทีม การเปิดรับการชี้แนะการปฏิบัติงาน การสนทนาที่มุ่งสะท้อนผลการปฏิบัติงาน การมีภาวะผู้นำร่วม โครงสร้างสนับสนุนชุมชน และการวิจัยร่วมกัน 2) การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานพบว่า ความสำคัญความต้องการจำเป็นของการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานประกอบด้วย การวางแผนการจัดการเรียนรู้ ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ และการประเมินผลการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน
- รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือ 1) หารูปแบบ 2) ยืนยันรูปแบบ 3) การพัฒนาคู่มือการใช้รูปแบบ 4) ประเมินคู่มือการใช้รูปแบบโดยมีความเป็นประโยชน์และความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนความถูกต้องและความเป็นไปได้อยู่ระดับมาก
- รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1) ผลประเมินการใช้รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของการจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน อยู่ระดับมาก 2) ผลประเมินการใช้รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของขั้นตอนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงงานเป็น อยู่ระดับมาก 3) แบบประเมินการประเมินการใช้รูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของการประเมินผลการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐาน อยู่ระดับมาก
- ผลการศึกษาความพึงพอใจต่อรูปแบบชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานเป็นฐานของครูระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า อยู่ระดับมากที่สุด