เผยแพร่นวัตกรรมการเรียนการสอน ครูรจนา

กระดานสนทนา เผยแพร่ผลงานวิชาการหมวดหมู่: เผยแพร่ผลงานวิชาการเผยแพร่นวัตกรรมการเรียนการสอน ครูรจนา
krooann asked 10 เดือน ago

บันทึกข้อความ
ส่วนราชการ โรงเรียนมัธยมบ้านแก้งวิทยา  สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ
ที่ ชย51006.009/ม.ก.ว……….                             วันที่  7  มกราคม  2567
เรื่อง  รายงานการสร้างสื่อนวัตกรรมการเรียนการสอน  ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566
 
เรียน  ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนมัธยมบ้านแก้งวิทยา
 
              ตามที่ข้าพเจ้า นางรจนา แสงสุธา ตำแหน่ง ครู ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานสอน ประจำภาคเรียนที่ 2          ปีการศึกษา 2566 ในรายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 และเมื่อขณะจัดกิจกรรมการเรียนการสอน             เรื่องวงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า พบว่านักเรียนยังขาดความเข้าใจและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์           ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้ช้า จากความตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าวที่ครูผู้สอนต้องการให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง และเรียนรู้จากกิจกรรมที่ได้ทำจริงจะส่งผลให้ผู้เรียนสามารถจดจำสิ่งที่เรียนรู้และจะช่วยพัฒนาทักษะกระบวนการ       ทางวิทยาศาสตร์ของผู้เรียนให้สูงขึ้นได้อย่างคงทนมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงได้ทำการวิจัยการพัฒนากิจกรรม                   การเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 เรื่อง วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรม              เป็นฐานขึ้น เพื่อจัดทำเป็นสื่อนวัตกรรมการเรียนการสอน โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

  1. เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 เรื่อง วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน
  2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 เรื่อง วงจรไฟฟ้า และการต่อวงจรไฟฟ้า ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย

  1. แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
  2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (ก่อนและหลังเรียน) เรื่อง วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
  3. แบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6                           เรื่อง วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน

ทั้งนี้จะรายงานผลการใช้นวัตกรรมในรูปแบบของวิจัยในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนในลำดับต่อไป
 
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
 
                                                                         (นางรจนา  แสงสุธา)
        ตำแหน่ง ครู
ความเห็นของหัวหน้าฝ่ายวิชาการ                             ความเห็นของรองผู้อำนวยการสถานศึกษา
…………………………………………………..……………………………            ………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………….            ………………………………………………………………………………………
ลงชื่อ                                                                 ลงชื่อ
        (นางอุไรวรรณ  ปัญญาศิลป์)                                         (นางนวลนิตย์  ถาวงษ์กลาง)
             หัวหน้าฝ่ายวิชาการ                               รองผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนมัธยมบ้านแก้งวิทยา
ความเห็นของผู้อำนวยการสถานศึกษา
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….
                                            ลงชื่อ
                                                      (นายอนุชา ขวาไทย)
        ผู้อำนวยการสถานศึกษา โรงเรียนมัธยมบ้านแก้งวิทยา
 
รายงานการสร้างสื่อนวัตกรรมการเรียนการสอน 
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566
 

  1. ชื่อนวัตกรรมการเรียนการสอน

          พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 เรื่อง วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้าของนักเรียน            ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน
 

  1. ชื่อผู้สร้าง/พัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน

นางรจนา  แสงสุธา ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์           และเทคโนโลยี โรงเรียนมัธยมบ้านแก้งวิทยา  Email : [email protected]
 

  1. แนวทางการคิดค้นนวัตกรรมการเรียนการสอน

R แนวทางที่ 1 แสวงหานวัตกรรมการเรียนการสอนจากแหล่งต่างๆ ที่เคยมีผู้สร้างหรือทำไว้แล้ว               แล้วนำมาปรับปรุงหรือพัฒนาใหม่
£ แนวทางที่ 2 การสร้างนวัตกรรมการเรียนการสอนขึ้นใหม่
 

  1. ประเภทของนวัตกรรมการเรียนการสอน

          £ สื่อการเรียนการสอน
          R เทคนิควิธีสอน
 

  1. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหาที่ต้องสร้าง/พัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน

          วิทยาศาสตร์ เป็นการสร้างองค์ความรู้ที่ได้มาจากการศึกษาปรากฏการณ์ธรรมชาติ ซึ่งสามารถแสดง            หรือพิสูจน์ได้ว่าถูกต้องและมีการอาศัยประจักษ์พยานเพื่อสนับสนุนความจริงในขณะนั้น โดยใช้กระบวนการ                      แสวงหาความรู้ ทางวิทยาศาสตร์ แล้วจัดความรู้นั้นเข้าเป็นระเบียบ เป็นหมวดหมู่ โดยเป็นความรู้ที่สะสมมา                 แต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต อย่างไม่รู้จักจบสิ้น  ในการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ที่เน้นให้ผู้เรียน มีปฏิสัมพันธ์       กับการเรียนรู้ตามศักยภาพของผู้เรียน โดยผ่านกิจกรรมที่ผู้เรียนจะต้องฟัง พูด อ่าน เขียน คิด ถาม คำถาม                สืบค้น อภิปราย ออกแบบและลงมือปฏิบัติจริงร่วมกัน 
          จากสภาพปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 พบว่านักเรียนยังขาดความเข้าใจ        และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในเรื่องวงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้ช้า                จากความตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าวที่ครูผู้สอนต้องการให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริง และเรียนรู้จากกิจกรรม       ที่ได้ทำจริงจะส่งผลให้ผู้เรียนสามารถจดจำสิ่งที่เรียนรู้และจะช่วยพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์         ของผู้เรียนให้สูงขึ้นได้อย่างคงทนมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงได้ทำการวิจัยการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชา วิทยาศาสตร์ 6 เรื่อง วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน ขึ้น
 

  1. วัตถุประสงค์ของการสร้าง/พัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน
  2. เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 เรื่อง วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า                    ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน

          2. เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 เรื่อง วงจรไฟฟ้า           และการต่อวงจรไฟฟ้าของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน
 
 
 
 
 
 

  1. ขอบเขตของการสร้าง/พัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน

        7.1  ขอบเขตด้านประชากร
              นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนมัธยมบ้านแก้งวิทยา ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566                    จำนวน 19 คน
        7.2  ขอบเขตด้านเนื้อหา/ตัวแปร
              เนื้อหารายวิชาที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 รหัสวิชา ว23102                เรื่อง วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566                        ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ปรับปรุงพุทธศักราช 2560)
 

  1. หลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่ใช้ในการสร้าง/พัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน

          พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 เรื่อง วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้าของนักเรียน          ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน ครูผู้สอนได้ศึกษาค้นคว้าข้อมูลหลักการ แนวคิด ทฤษฎีที่ใช้ดังต่อไปนี้
          8.1. ความหมายของกิจกรรม
          กิจกรรมเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสามารถช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ซึ่งโดยมากจะแทรกอยู่ใน        รูปของความสนุกสนาน ได้มีผู้ให้ความหมายไว้หลายท่าน ดังนี้
          จรินทร์ ธานีรัตน์ (อ้างใน วราภรณ์ ภูละคร, 2533: 12) ได้ให้ความหมายของคำว่ากิจกรรมดังนี้ กิจกรรม หมายถึง สภาพการเรียนรู้ใดๆ ที่ได้กระทำด้วยความเต็มใจทั้งทางสมองและทางกาย เพื่อเป็นการสนองความต้องการของผู้กระทำให้บรรลุถึงจุดมุ่งหมาย เช่น การค้นคว้าการอภิปราย การแก้ปัญหา หรือการที่เด็กได้ใช้ส่วนต่าง ๆ                ของร่างกายและสมองประกอบก็นับเป็นกิจกรรมแล้ว
          สมศักดิ์ สินธุระเวชญ์ (2544: 1) ให้ความหมายกิจกรรมว่าการปฏิบัติด้วยตนเอง คือ เป็นชุดของการปฏิบัติการต่างๆ ที่มี การเตรียมการหรือวางแผนไว้เรียบร้อยแล้วผู้ปฏิบัติบังเกิดผลตามที่คาดหวังไว้
          โรม วงศ์ประเสริฐ (2545: 9) กล่าวว่ากิจใดๆ ที่ผู้ดำเนินการจัดการขึ้นมาอย่างมีจุดมุ่งหมาย โดยมุ่งหมาย หวังเพื่อใช้ กระบวนการของกิจกรรมพัฒนาผู้เข้ากิจกรรมต่อไปโดยที่กิจกรรมอาจจะจัดในร่มหรือกลางแจ้งก็ได้      ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของ แต่ละกิจกรรมที่เลือกนำมาใช้
          จากความคิดดังกล่าวสรุปได้ว่า กิจกรรม หมายถึง สภาพการณ์หรือการกระทำที่ครูจัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนสามารถ เข้าใจบทเรียนได้ง่ายกว่า การสอนแบบธรรมดา ได้รับทั้งความรู้ความสนุกสนานและผู้เรียนต้องกระทำด้วยความเต็มใจ และเป็น สิ่งที่ผู้ดำเนินการจัดเตรียมให้ผู้เข้าร่วมลงมือปฏิบัติเพื่อให้เกิดผลตามที่ตั้งวัตถุประสงค์ไว้
          8.2  การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
          การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบใช้คำถามมีขั้นตอนสำคัญดังต่อไปนี้
          1. ขั้นวางแผนการใช้คำถาม ผู้สอนควรจะมีการวางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะใช้คำถามเพื่อวัตถุประสงค์ใด รูปแบบหรือประการใดที่จะสอดคล้องกับเนื้อหาสาระและวัตถุประสงค์ของบทเรียน
          2. ขั้นเตรียมคำถาม ผู้สอนควรจะเตรียมคำถามที่จะใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยการสร้างคำถามอย่างมีหลักเกณฑ์
          3. ขั้นการใช้คำถาม ผู้สอนสามารถจะใช้คำถามในทุกขั้นตอนของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และอาจจะสร้างคำถามใหม่ที่นอกเหนือจากคำถามที่เตรียมไว้ก็ได้ ทั้งนี้ต้องเหมาะสมกับเนื้อหาสาระและสถานการณ์นั้น ๆ
          4. ขั้นสรุปและประเมินผล
                    4.1  การสรุปบทเรียนผู้สอนอาจจะใช้คำถามเพื่อการสรุปบทเรียนก็ได้
                    4.2  การประเมินผล ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันประเมินผลการเรียนรู้ โดยใช้วิธีการประเมินผล            ตามสภาพจริง
 
 
 
 
8.3  ประโยชน์ของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
          1. ผู้เรียนกับผู้สอนสื่อความหมายกันได้ดี
          2. ช่วยให้ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
          3. สร้างแรงจูงใจและกระตุ้นความสนใจของผู้เรียน
          4. ช่วยเน้นและทบทวนประเด็นสำคัญของสาระการเรียนรู้ที่เรียน
          5. ช่วยในการประเมินผลการเรียนการสอน ให้เข้าใจความสนใจที่แท้จริงของผู้เรียน และวินิจฉัยจุดแข็งจุดอ่อนของผู้เรียนได้

  1. ช่วยสร้างลักษณะนิสัยการชอบคิดให้กับผู้เรียน ตลอดจนนิสัยใฝ่รู้ใฝ่เรียนตลอดชีวิต

          8.4  การจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน
          การจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน หมายถึง การจัดการเรียนรู้ที่มุ่งเน้น ส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วม        ในการเรียนรู้โดยเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่ได้รับการจัดสภาพแวดล้อมไว้ อย่างเหมาะสม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ผู้เรียน          ได้ลงมือปฏิบัติ จากการสำรวจ ทดลอง และการ สร้างสรรค์ผลงานร่วมกับผู้อื่น จนผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้                มีความสุขและความเพลิดเพลินใน สิ่งที่ผู้เรียนได้เรียนรู้ และสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ โดยขั้นตอนการจัด                    การเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐานมี 5 ขั้น ดังนี้

  1. ขั้นนำ  ครูชี้แจงวัตถุประสงค์ของการเรียนและทบทวนบทเรียนเพื่อนำนักเรียนเข้าสู่เนื้อหาที่ต้องการ             ให้นักเรียนได้เรียนรู้ อีกทั้งยังสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้เพื่อเตรียมความพร้อมของ นักเรียน และให้นักเรียน         เข้ากลุ่มตามที่จัดไว้
  2. ขั้นศึกษาและอภิปราย  ครูนำเสนอบทเรียนที่มีความท้าทายและน่าสนใจ เพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียน                  ได้ศึกษาบทเรียน เสนอความคิดเห็น และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนในกลุ่ม และนำมาอภิปรายร่วมกัน           เพื่อการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
  3.   ขั้นกิจกรรม ครูเริ่มดำเนินกิจกรรมโดยให้นักเรียนทุกคนในแต่ละกลุ่มได้ลงมือปฏิบัติ โดยจัดการแข่งขัน        ขึ้นในแต่ละกิจกรรมเพื่อช่วยสร้างบรรยากาศในการเรียนรู้ ความตื่นตัวทางการเรียนและสร้างแรงจูงใจ อีกทั้งเพื่อให้นักเรียนได้ใช้กระบวนการแก้ปัญหาในการทำกิจกรรม โดยมีครูเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการดำเนินกิจกรรม
  4. ขั้นสะท้อนผลจากกิจกรรม ครูให้นักเรียนได้นำเสนอแนวคิดและคำตอบที่ได้จากการทำกิจกรรม นักเรียนทุก กลุ่มร่วมกันอภิปรายคำตอบของเพื่อนกลุ่มอื่นๆ และร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง สะท้อนความคิดและองค์ความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรม
  5.   ขั้นประเมินผล ครูประเมินผลการเรียนรู้จากสิ่งที่นักเรียนได้เรียนและทำกิจกรรมมาทั้งหมดโดย เพื่อให้ครูได้ทราบถึงพัฒนาการของนักเรียนและนำไปปรับปรุงในการจัดการเรียนต่อไป

 

  1. 9. กรอบแนวคิดในการสร้าง/พัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน

            การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 เรื่อง วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้าของนักเรียน          ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน มีกรอบแนวคิดในการสร้าง/พัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน ดังนี้
 
ตัวแปรอิสระ                                                          ตัวแปรตาม

การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน

   1. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
   2. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 เรื่อง วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน  
 
 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

  1. วิธีดำเนินการสร้าง/พัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน

        10.1  การค้นหาปัญหา และความต้องการที่ต้องการพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอน คือ ขาดความเข้าใจ        และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในเรื่องวงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6
        10.2  ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน
        10.3  ร่วมกันระดมความคิดจากครูผู้สอนสาขาวิชาฟิสิกส์ ที่ตั้งเป็นกลุ่มชุมชนแห่ง การเรียนรู้ (PLC) ในการวิเคราะห์และสังเคราะห์การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6 เรื่อง วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า               ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน       
        10.4  สร้างสื่อ และรูปแบบการจัดกิจกรรม
        10.5  นำไปทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1  จำนวน 19 คน โดยดำเนินการรวบรวมคะแนน จากแบบทดสอบก่อนเรียน  การออกแบบและการปฏิบัติกิจกรรม  และคะแนนจากแบบทดสอบหลังเรียน
        10.6  กลุ่มตัวอย่างทำแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาวิทยาศาสตร์ 6           เรื่อง วงจรไฟฟ้าและการต่อวงจรไฟฟ้า ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้กิจกรรมเป็นฐาน

  1. 7 วิเคราะห์ สรุป และอภิปรายผลและเขียนรายงานสรุปผลการวิจัยในชั้นเรียน

 
11. การวิเคราะห์ข้อมูล
          11.1  หาค่าเฉลี่ยของคะแนนทดสอบก่อนและหลังเรียน ( ) โดยคำนวณจากสูตร ดังนี้    
(บุญธรรม  กิจปรีดาบริสุทธิ์. 2543)
 
                                        สูตร            = 
 
                              เมื่อ             แทน     คะแนนเฉลี่ย
                                            แทน     ผลรวมของคะแนนทั้งหมด
                                               แทน     จำนวนข้อมูล
 
           11.2  หาค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ของคะแนนทดสอบก่อนและหลังเรียน ใช้สูตร ดังนี้   (บุญธรรม  กิจปรีดาบริสุทธิ์. 2543)    
 
                                        สูตร     S.D.    =  
 
                              เมื่อ      S.D.     แทน     ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
              แทน     ผลรวมของคะแนนทั้งหมด
             แทน     ผลรวมของกำลังสองของคะแนนทั้งหมด
                 แทน     จำนวนข้อมูล
           11.3 วิเคราะห์ข้อมูลความพึงพอใจ โดยใช้สถิติการหาค่าร้อยละ (Percentage) โดยใช้สูตรดังนี้              (บุญชม ศรีสะอาด. 2556)
 
                                        p        =       
 
                     เมื่อ               p        แทน     ร้อยละ
                                              แทน     ความถี่ต้องการแปลงให้เป็นร้อยละ
                                        N        แทน     จำนวนความถี่ทั้งหมด
 

  1. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

          12.1  นักเรียนเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สามารถพัฒนาทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง            ทำงานเป็นกลุ่ม สามารถสร้างสรรค์ชิ้นงาน และสื่อสารกับผู้อื่นได้ดีขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
          12.2  นักเรียนเห็นคุณค่าและความสำคัญ รวมทั้งเกิดเจตคติที่ต่อของการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์มากขึ้น
 
 

Powered by GliaStudio
Back to top button