การพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒

กระดานสนทนา เผยแพร่ผลงานวิชาการหมวดหมู่: เผยแพร่ผลงานวิชาการการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒
  1. ชื่อเรื่อง   การพัฒนาทักษะการอ่าน  การคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทย 

ด้วยกิจกรรม  การทำหนังสือส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม (นิทาน 3 ตอน)
 

  1. ความเป็นมาและความสำคัญ

          พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542  และที่แก้ไขเพิ่มเติม  (ฉบับที่ 2)              พ.ศ. 2545  จึงได้กำหนดแนวทางในการจัดการศึกษาไว้ใน หมวด 4 มาตรา 23 และ มาตรา 24                         ให้สถาบันการศึกษาจัดการศึกษา  โดยเน้น  “การใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง  ฝึกทักษะกระบวนการคิด  การจัดการ การเผชิญสถานการณ์และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ปัญหา  จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง  ฝึกการปฏิบัติให้ทำได้  คิดเป็น  ทำเป็น  รักการอ่านและเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง” สุวัฒน์  วิวัฒนานนท์ 2550 : 2)  และมาตรฐานการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาได้กำหนดมาตรฐานด้านผู้เรียนมาตรฐานที่ 4 ไว้ว่า  “ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ มีวิจารณญาณ มีความคิดสร้างสรรค์ คิดไตร่ตรอง และมีวิสัยทัศน์” สรุปได้ว่า  แนวทางในการจัดการศึกษาและการประเมินคุณภาพในการจัดการศึกษาของชาติ       เน้นการพัฒนาคนทั้งด้านการคิดวิเคราะห์และการอ่าน
          ทักษะการอ่าน  เป็นทักษะหนึ่งที่มีความสำคัญช่วยให้เกิดความงอกงามทางสติปัญญาโดยเฉพาะในชีวิตคนในปัจจุบัน การอ่านมีความจำเป็นอย่างมาก ถ้าไม่อ่านเราก็ไม่สามารถทันต่อเหตุการณ์และความเป็นไปของโลก การอ่านทำให้เกิดความรอบรู้และเกิดความคิด  การอ่าน           มีความสำคัญที่จะช่วยพัฒนาความเจริญก้าวหน้าให้แก่บุคคล  ใครอ่านมากก็จะมีความรู้                 มีประสบการณ์มาก  (เปรมจิต  ศรีสงคราม. 2527 : 1)  การอ่านเป็นเครื่องมือพื้นฐานสำคัญในการศึกษาหาความรู้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์  ซึ่งเป็นการอ่านที่ฝึกให้ผู้อ่านรู้จักใช้ความคิด สติปัญญาและความรอบรู้ต่อสิ่งที่ได้อ่านฝึกคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล  สามารถจับประเด็นสำคัญของเรื่องที่อ่าน  รู้จักแสดงความคิดเห็น  ซึ่งการแสดงความคิดเห็นจะช่วยให้ผู้อ่านรู้จักคิดเป็น  มีความรู้กว้างขวางและเป็น  การเพิ่มพูนความรู้ความสามารถในการใช้ทักษะทางปัญญา  เพื่อแสดงออกมาเป็นความคิดเห็นของตนเองการถ่ายทอดความคิดเห็นของตนเองออกมาได้จำเป็นจะต้องแสวงหาความรู้ต่างๆ นำมาเปรียบเทียบ  คิดวิเคราะห์  วิจารณ์ และนำไปพัฒนาความสามารถของตน ทำให้เกิดความรอบรู้จริง  สามารถนำความรู้จากสิ่งที่ได้อ่านมาใช้ได้อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจะทำให้ประสบความสำเร็จในการเรียน  การทำงานและชีวิตครอบครัว (กรมวิชาการ. 2546 ข : 4 – 10)  การอ่านเป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็นและสำคัญยิ่งต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เพราะเป็นกระบวนการในการแสวงหาความรู้และรับรู้ข่าวสารเรื่องราวต่างๆ  เพื่อให้เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถทันสมัย  ทันต่อเหตุการณ์และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน
 
 
          การคิดวิเคราะห์ (Analytical thanking)  เป็นทักษะที่ส่งเสริมการเรียนรู้ซึ่งผู้เรียนจะต้อง  ฝึกและพัฒนาจนทำให้เป็นนิสัย  เพื่อให้ผู้เรียนขยายความรู้ประสบการณ์และความคิดของตนเอง และลึกซึ้ง  การคิดวิเคราะห์ (Analytical thinking)  เป็นการคิดโดยใช้สมองซีกซ้ายเป็นหลักเป็น   การฝึก  ในเชิงลึก  คิดอย่างละเอียดจากเหตุไปสู่ผลมีการคิดหาทางเลือกในรูปแบบต่างๆ  ไปจนถึงการวิเคราะห์เปรียบเทียบ เพื่อตัดสินใจเลือกกรณีที่จะมีความเหมาะสมและคุ้มค่าสูงสุดถือเป็นการคิด วิเคราะห์ที่มีทั้งความสมบูรณ์  ความสุขุมและตรวจความรอบคอบที่ทุกคนควรกระทำ                    การคิดวิเคราะห์เป็นความสามารถในการจำแนกแยกแยะองค์ประกอบต่างๆ ของสิ่งหนึ่งซึ่งอาจเป็นวัตถุสิ่งของเรื่องราวหรือเหตุการณ์และการหาความสัมพันธ์เชิงเหตุผล  ระหว่างองค์ประกอบเหล่านั้นเพื่อค้นหาสภาพความเป็นจริงหรือสิ่งที่สำคัญของสิ่งที่กำหนดนั้น (สุวิทย์ มูลคำ. 2547 : 9)  ดังนั้นการพัฒนาทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน เป็นจุดเน้นประการหนึ่งของการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาและหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ( กระทรวงศึกษาธิการ,2551, หน้า 6) ได้กำหนดสมรรถนะ เกณฑ์การผ่านและจบช่วงชั้นที่ต้องเกิดขึ้นกับผู้เรียน และมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ มาตรฐานการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษา ได้กำหนดมาตรฐานด้านผู้เรียนที่เกี่ยวกับการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ดังนี้
(1)  หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดสมรรถนะสำคัญของ นักเรียน ซึ่งพัฒนานักเรียนให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดนั้น ในข้อ 2  คือ ความสามารถในการคิดเป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์  การคิดสังเคราะห์  การคิดอย่างสร้างสรรค์  การคิดอย่างมีวิจารณญาณและการคิดเป็นระบบ  เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ  การตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม
  (2)  เกณฑ์การผ่านช่วงชั้นและการจบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน  นักเรียนต้องผ่านการประเมินการอ่าน  คิดวิเคราะห์และเขียนให้ได้ตามที่สถานศึกษากำหนด
  (3)  มาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ และมาตรฐานการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาได้กำหนดมาตรฐาน ด้านนักเรียน มาตรฐานที่ 4 ไว้ว่า “ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ มีวิจารณญาณ มีความคิดสร้างสรรค์ คิดไตร่ตรอง และมีวิสัยทัศน์ ”
          จากความสำคัญของทักษะการอ่าน  การคิดวิเคราะห์ดังกล่าว  การจัดกิจกรรมการเรียนรู้  ในวิชาภาษาไทย  ควรเน้นกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะการคิด  คิดได้อย่างมีกระบวนการ  พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 24  ได้ระบุไว้ว่า  ให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง     ฝึกทักษะกระบวนการคิด  นำมาจัดในกิจกรรมการเรียนการสอนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยสมอง         ด้วยกายและใจ  เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ผ่านกระบวนการคิดด้วยตนเอง  โดยให้มีการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ  จินตนาการ  ความงาม  ปัญญาและฐานความจริง  ซึ่งรูปแบบและวิธีการที่สามารถพัฒนาผู้เรียนในเรื่องทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ พบว่า  กิจกรรมการทำหนังสือนิทาน   3 ตอน  เป็นเครื่องมือที่ดีที่จะช่วยกระตุ้นให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน  ส่งเสริมสติปัญญาด้านการคิด สร้างเสริมจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ เป็นนวัตกรรมที่นำไปสู่ 1. การเรียนรู้เหตุการณ์ปัจจุบัน (Present future oriented)   2.  การสร้างจริยธรรม  (Environmental ethies)  

  1. การบูรณาการเนื้อหาการเรียน (System approach) 4. การเรียนรู้ในเชิงระบบ (Interdiseiplinary approach)  นักเรียนสามารถนำข้อคิดที่ได้จากนิทานไปพัฒนาในเรื่องคุณธรรม  จริยธรรม อีกทั้งยังช่วยในเรื่องทักษะการคิดวิเคราะห์  เนื่องจากการทำหนังสือนิทานขึ้นมาสักเล่มนั้น  นักเรียนต้องผ่านกระบวน  การอ่าน  การคิดวิเคราะห์ก่อนจึงจะสามารถถ่ายโยงความคิดอย่างเป็นระบบ  ดังนั้นการจัดกิจกรรมทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม (นิทาน 3 ตอน)  จึงเป็นรูปแบบและวิธีปฏิบัติที่สามารถพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนให้สูงขึ้น  นักเรียนเกิดการเรียนรู้ที่คงทน  ตลอดจนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้

 
.  วัตถุประสงค์

  1. เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทยของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒
  2. เพื่อให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้หน่วยที่ ๒  เพื่อวิเคราะห์  มาประยุกต์      ทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม (นิทาน 3 ตอน)  มาจัดทำเป็นรูปเล่มหนังสือนิทาน    ของตนได้อย่างสมบูรณ์
  3. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนด้านการอ่าน การคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทยให้เพิ่มขึ้น  

 
.  กระบวนการพัฒนาผลงาน
          ๑.  สภาพปัญหาก่อนการพัฒนา
จากการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒  โรงเรียนบ้านปง  สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๔ ปีการศึกษา 25๖๖ พบว่านักเรียนยังขาดความรู้พื้นฐานและทักษะของเรื่อง การอ่านคิดวิเคราะห์และเขียน การใช้ภาษา  การวิเคราะห์หรือการการจับใจความสำคัญ
๒.  การออกแบบนวัตกรรมเพื่อพัฒนา
กลุ่มเป้าหมาย    นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒
เนื้อหา            หน่วยการเรียนรู้ที่  ๒  การอ่านเพื่อวิเคราะห์  (การอ่านวิเคราะห์  วิจารณ์และประเมินค่า)
ระยะเวลา        ภาคเรียนที่ ๑ 
 
 
 
๓.  ขั้นตอนการดำเนินงานพัฒนา
          .1  ขั้นวางแผน ( ดำเนินการและวางแผนดำเนินการ ) : Plan
–  ศึกษาหลักสูตร ตัวชี้วัด และแนวทางการพัฒนาทักษะการอ่าน  การคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทย
–  ศึกษาเนื้อหาขั้นตอนการสอนที่ต้องการพัฒนาทักษะการอ่าน  การคิดวิเคราะห์และเขียน
ภาษาไทย   ด้วยกิจกรรมการทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม  (นิทาน 3 ตอน)
–  จัดลำดับขั้นตอนสอน  จัดเตรียมสื่ออุปกรณ์  / วางแผนการสอน
.2  ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ : Do

  1. ครูจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่าน  การคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทย  โดยศึกษาและเรียนรู้หน่วยการเรียนรู้ที่  ๒  การอ่านเพื่อวิเคราะห์  (การอ่านวิเคราะห์  วิจารณ์และประเมินค่า) จากหนังสือเรียนหลักภาษาไทย ม.๒  เมื่อเกิดการเรียนรู้และเข้าใจในเนื้อหาดีแล้ว  ครูนำเนื้อหามาประยุกต์ใช้ด้วยการฝึกให้นักเรียนอ่านหนังสือนิทานตามความสนใจ  กระตุ้นการคิดด้วยการจัดกิจกรรมให้นักเรียนวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดที่ได้จากนิทานด้วยเทคนิคการเรียนรู้ที่หลากหลาย  เช่น  เทคนิคการถามด้วยหมวกความคิดหกใบ  การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน  การระดมพลังสมอง         การใช้แผนที่ความคิด  เป็นต้น  เพื่อนำไปสู่การพัฒนาทักษะกระบวนการคิด
  2. ครูให้นักเรียนศึกษารายละเอียด  หลักการและองค์ประกอบของการแต่งนิทานส่งเสริมคุณธรรม  จริยธรรม พร้อมให้นักเรียนศึกษาจากตัวอย่างหนังสือนิทานหลากหลายเล่มหลายชนิด
  3. นักเรียนแต่ละคน  เขียนแผนภาพโครงเรื่องนิทานออกมาเป็นแผนผังความคิด แล้วนำเสนอผลงานหน้าชั้น  ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อยของนิทานแต่ละกลุ่มเพื่อนำไปแก้ไขปรับปรุงให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
  4. ครูตรวจผลงานการแต่งนิทานของนักเรียนแต่ละกลุ่มอีกครั้ง  พร้อมเสนอแนะบอกจุดเด่น จุดที่ควรแก้ไขเพื่อให้นักเรียนนำไปปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นก่อนนำไปเขียนและจัดทำเป็นหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม  (นิทาน 3 ตอน)
  5. ครูอธิบายวิธีการทำหนังสือนิทานและนำตัวอย่างรูปเล่มหนังสือนิทานที่ทำจากมือมาให้นักเรียนได้ศึกษา พร้อมสาธิตขั้นตอนการทำให้นักเรียนดู
  6. 6. นักเรียนแต่ละคนลงมือปฏิบัติในการทำหนังสือนิทานซึ่งจะได้สร้างสรรค์ผลงานของตน

.3  การตรวจสอบ ประเมินผล : Check
–  นักเรียนนำผลงานที่ได้มาเปรียบเทียบกัน และปรับปรุงผลงานของตน
–  ครูตรวจผลงานและให้คำแนะนำในการแก้ไขข้อบกพร่องเพื่อให้หนังสือนิทานมีความสมบูรณ์
–  จัดแสดงผลงานไว้ในมุมส่งเสริมความรู้ในห้องภาษาไทยระดับชั้นมัธยมศึกษา
–  นักเรียนทำแบบสอบถามความพึงพอใจ ครูวิเคราะห์สรุปผลจากแบบสอบถามความพึง-พอใจ
.4  การรายงานผลเพื่อปรับปรุงพัฒนา : Action
–  จากการสังเกตและจากแบบสอบถามความพึงพอใจ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฏิบัติงานในการทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม พร้อมนำข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงไปพัฒนางานในครั้งต่อไปให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
 
.  ผลที่เกิดขึ้นจาการดำเนินงาน
          ผลการดำเนินการ

  1. นักเรียนมีทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทยที่สูงขึ้น
  2. นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้หน่วยที่ ๒  การอ่านเพื่อวิเคราะห์      (การอ่านวิเคราะห์  วิจารณ์และประเมินค่า)  มาประยุกต์ทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม (นิทาน 3 ตอน)  ได้

 
๕.  สรุปสิ่งที่เรียนรู้และการปรับปรุงให้ดีขึ้น
ผลสัมฤทธิ์

  1. 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนด้านการอ่าน การคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทยเพิ่มขึ้น
  2. 2. นักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ ๒ โรงเรียนบ้านปง  สามารถจัดทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม  จริยธรรม (นิทาน 3 ตอน) ได้  อีกทั้งมีความสนใจ ใฝ่รู้ที่จะพัฒนาการทำหนังสือนิทานของตนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและสามารถขยายผลต่อให้กับผู้เรียนคนอื่นๆ  ได้

          ประโยชน์ที่ได้รับ
          การจัดกิจกรรมการทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม  จริยธรรม(นิทาน 3 ตอน) สามารถพัฒนาความสามารถด้านการอ่าน การคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทยให้สูงขึ้น  นักเรียนสามารถทำหนังสือนิทานที่เป็นรูปเล่มของตนได้และมีความภูมิใจในผลงานของตน  ซึ่งผลจากความพยายามพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน  และการดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่องทำให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จ ส่งผลดีต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  ถือเป็นบทเรียนที่ได้รับ  ดังนี้
–  นักเรียนมีความรู้  มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีความสามารถด้านการอ่าน  การคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทย  มีทักษะในการทำหนังสือนิทาน 
–  ครูมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง  มีความภาคภูมิใจและชื่นชมในผลที่เกิดแก่นักเรียน
–  โรงเรียนได้รับรางวัลต่างๆ  ทางด้านการแข่งขันทักษะวิชาการในด้านการอ่านและการคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทย  ทั้งในระดับระดับเขตพื้นที่การศึกษาและระดับชาติ  ทำให้ได้รับ          การชื่นชมจากผู้ปกครองและชุมชน
–  ผู้ปกครองมีความเชื่อมั่นในการจัดการศึกษาของโรงเรียนและภาคภูมิใจในตัวบุตรหลาน
–  ชุมชนมีความภาคภูมิใจที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของโรงเรียน
.  การขยายผลและเผยแพร่ผลการพัฒนา
เผยแพร่ผลงานในเพจ  สื่อง่ายๆ by ครูปิ่น  https://www.facebook.com/Krupinpin2525
 
๕.  ข้อเสนอแนะและแนวทางการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
          การจัดกิจกรรมการทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม  จริยธรรม(นิทาน 3 ตอน) สามารถพัฒนาความสามารถด้านการอ่าน การคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทยให้สูงขึ้น  นักเรียนสามารถทำหนังสือนิทานที่เป็นรูปเล่มของตนได้และมีความภูมิใจในผลงานของตน  ซึ่งผลจากความพยายามพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน  และการดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่องทำให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จ ส่งผลดีต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง  ถือเป็นบทเรียนและนวัตกรรมที่ดีและเห็นควรได้รับการพัฒนาต่อไป
 
๖.  จุดเด่นหรือลักษณะพิเศษของผลงานนวัตกรรม
          การทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม  จริยธรรม  (นิทาน 3 ตอน)  เป็นสื่อหรือนวัตกรรมที่ช่วยให้นักเรียนได้คิดและฝึกฝนการอ่าน  การเขียน  พัฒนาการคิดวิเคราะห์แบบรวบยอด  นักเรียนสามารถออกแบบผลงานตัวเองตามความคิดของตนได้เป็นอย่างดี  โดยต้องออกแบบงานหรือนิทานตอนที่  ๑ – ๒  ให้สามารถสรุปภาพและเนื้อออกมาให้สอดคล้องและสัมพันธ์กับตอนที่ ๓  ซึ่งสื่อหรือนวัตกรรมนี้   ส่งผลให้สัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนด้านการอ่าน การคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทยเพิ่มขึ้น
 
รางวัลที่ได้รับ
          จากการพัฒนาทักษะการอ่าน  การคิดวิเคราะห์และเขียนภาษาไทย  ในหลายปีที่ผ่านมาส่งผลให้ได้รับรางวัล  ดังนี้

  1. ชนะเลิศ (เหรียญทอง)  การแข่งขันพินิจวรรณคดี ม.1-3  งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน  ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ 70  ปีการศึกษา  2565
  2. ชนะเลิศ (เหรียญทอง)  การแข่งขันวรรณกรรมวิจารณ์ ม.1-3  งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน  ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ 70  ปีการศึกษา  2565
  3. ชนะเลิศ (เหรียญทอง)  การแข่งขันกวีเยาวชนคนรุ่นใหม่ กาพย์ยานี 11  ม.1-3                       งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน  ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ 70  ปีการศึกษา  2565
  4. รองชนะเลิศอันดับ 1 (เหรียญทอง)  การแข่งขันพินิจวรรณคดี  ม.1-3  งานศิลปหัตถกรรม-นักเรียน  ระดับชาติ ครั้งที่ 70  ปีการศึกษา  2565  ภาคเหนือ จังหวัดน่าน
  5. รองชนะเลิศอันดับ 32 (เหรียญทองแดง)  การแข่งขันวรรณกรรมวิจารณ์  ม.1-3                          งานศิลปหัตถกรรมนักเรียน  ระดับชาติ ครั้งที่ 70  ปีการศึกษา  2565  ภาคเหนือ จังหวัดน่าน
  6. รองชนะเลิศอันดับ 25 (เหรียญเงิน)  การแข่งขันกวีเยาวชนคนรุ่นใหม่ กาพย์ยานี 11   ม.1-3  งานศิลปหัตถกรรม-นักเรียน  ระดับชาติ ครั้งที่ 70  ปีการศึกษา  2565  ภาคเหนือ          จังหวัดน่าน

 
๗.  บรรณานุกรม     
 
ศึกษาธิการ, กระทรวง. 2546. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม       
          (ฉบับที่2) พ.ศ. 2545. กรุงเทพฯ : กระทรวงศึกษาธิการ.
 
สุวัฒน์ วิวัฒนานนท์. (2552). ทักษะการอ่าน คิดวเคราะห์และเขียน. นนทบุรี: ซี.ซี. นอลลิดจ์ลิงคส์.
 
เปรมจิต  ศรีสงคราม. การอ่านทั่วไป.  กรุงเทพฯ :  คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์วิทยาลัยครู
          จันทรเกษม, ๒๕๒๗.
 
กรมวิชาการ. คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์องค์การรับ
          ส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์, ๒๕๒๖.
 
สุวิทย์ มูลคำ. (2547) กลยุทธ์การสังเคราะห์ (พิมพ์ครั้งที่ ๒) : กรุงเทพฯ :  ภาพพิมพ์
 
กระทรวงศึกษาธิการ..(2553)..หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน.พุทธศักราช 2551.
พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุม สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.จำกัด
 

Powered by GliaStudio
Back to top button