Jannah Theme License is not validated, Go to the theme options page to validate the license, You need a single license for each domain name.

การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

กระดานสนทนา เผยแพร่ผลงานวิชาการหมวดหมู่: เผยแพร่ผลงานวิชาการการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
รันณ์ธร คงสนิท asked 5 เดือน ago

บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง              การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Modelเพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย                 นางรันณ์ธร  คงสนิท
ตำแหน่ง             ครู  วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
                        โรงเรียนเทศบาลบ้านกิโลสอง สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองอรัญญประเทศ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่วิจัย              2567
              การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model 4) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model 5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ
              กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ 1) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์ จำนวน 5 คน และครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ จำนวน 4 คน โดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) และ 2) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาลบ้านกิโลสอง สังกัดกองการศึกษา เทศบาลเมืองอรัญญประเทศ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 40 คน โดยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random Sampling Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) คู่มือการใช้รูปแบบการเรียนการสอน 2) แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ และ 5) แบบสอบถามความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติคำนวณหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย () ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน () การทดสอบหาค่าที (t – test) และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis)
              ผลการวิจัยพบว่า

  1. รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า “KONGSANIT Model” โดยมีองค์ประกอบดังนี้ หลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการเรียนการสอน สาระความรู้ ทักษะสิ่งที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง สิ่งสนับสนุน รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้นมีกระบวนการสอน 6 ขั้นตอน คือ 1) ขั้นเปิดรับความรู้สนใจสิ่งใหม่ (Knowledge Open interested in new things : KO) 2) ขั้นจัดกระบวนการความคิดในการเรียนรู้ (Navigate the process of idea : N) 3) ขั้นสร้างองค์ความรู้ใหม่ (Generalize in creating new knowledge : G) 4) ขั้นการนำไปใช้ (Statement Apply to knowledge : SA) 5) ขั้นสรุปแนวคิดใหม่ (New Ideas of Summary : NI) และ  6) ขั้นความคิดรวบยอด (Thinking is essential to thinking and evaluating : T)
  2. รูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างขึ้นทั้งมีค่าประสิทธิภาพของกระบวนการ () และค่าประสิทธิภาพของผลลัพธ์ () มีค่าประสิทธิภาพโดยรวม /เท่ากับ 99/82.52 มีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑ์กำหนด 80/80 ทุกแผนการจัดการเรียนรู้
  3. ผลการเปรียบเทียบคะแนนทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าคะแนนก่อน ใช้รูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
  4. ผลการเปรียบเทียบคะแนนทดสอบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าคะแนนก่อนใช้รูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
  5. ความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ โดยใช้ KONGSANIT Model เพื่อส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
Powered by GliaStudio
ชุดข้าราชการ ชุดข้าราชการหญิง ชุดกากี ชุดข้าราชการ shopee
Back to top button